สิ่งที่ต้องรู้เกี่ยวกับเรื่องหนี้ก่อนที่จะเริ่มสร้างหนี้ จะใช้เงินให้เกิดประโยชน์สูงสุดโดยไม่ต้องมีปัญหาหนี้สินรุมเร้าในภายหลัง
เรื่องแนะนำ

ขั้นตอนง่ายๆ ในการวางแผนการเงินอย่างรอบคอบ สำหรับการอนาคต

แนวทางกำหนดเป้าหมายและวางแผน สู่อิสรภาพทางการเงิน
![เทคนิคการวางแผนทางการเงินส่วนบุคคล [สำหรับนักศึกษา]](https://mmm.in.th/wp-content/uploads/2024/09/เทคนิคการวางแผนทางการเงินส่วนบุคคล-สำหรับนักศึกษา-300x169.png)
เทคนิคการวางแผนทางการเงินส่วนบุคคล [สำหรับนักศึกษา]

กฎเหล็กการใช้บัตรเครดิต แบบอนาคตสดใส
เรื่องที่เกี่ยวข้อง

กองทุนรวมสำหรับผู้เริ่มต้น : เลือกกองทุนต้องดูอะไรบ้าง

วิธีการประเมินสุขภาพทางการเงินของคุณก่อนลงทุน

แนวทางกำหนดเป้าหมายและวางแผน สู่อิสรภาพทางการเงิน

7 วิธีลดความเสี่ยงด้านการเงินในสภาวะเศรษฐกิจไม่แน่นอน
mmm.in.th ย่อให้
- เรื่องต้องรู้ก่อนที่จะเริ่มสร้างหนี้: เป็นหนี้เท่าที่จำเป็น เป็นหนี้เท่าที่เราจ่ายไหวเท่านั้น และต้องมีวินัยในการชำระหนี้
- ข้อดีของการเป็นหนี้: เป็นการสร้างเครดิตให้เรา เป็นการเปิดโอกาสในเราสร้างความมั่งคั่งในอนาคต และช่วยให้เรามีแรงผลักดันที่จะต่อสู้ในชีวิต
- หนี้ดี: คือหนี้ที่เป็นแล้ว สามารถสร้างรายได้ให้เราเพิ่มขึ้นในอนาคต
- หนี้เสีย คือหนี้ที่เป็นแล้ว ไม่สามารถสร้างรายได้ในอนาคต
การเป็นหนี้ไม่ได้มีความหมายในทางลบเพียงอย่างเดียว ถ้าหากเข้าใจเรื่องหนี้อย่างแท้จริงและนำเงินนั้นมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และถ้าไม่นำไปใช้จ่ายอะไรที่ฟุ่มเฟือยโดยไม่จำเป็น เงินนั้นก็จะส่งผลดีกับชีวิตของเราหลายอย่าง แต่คนส่วนใหญ่มักจะเป็นอย่างหลังมากกว่า คือนำเงินมาใช้จ่ายอะไรที่ฟุ่มเฟือยไม่จำเป็น จึงทำให้มีปัญหาหนี้สินตามมาในภายหลัง
ฉะนั้นวันนี้เราอยากจะให้ทุกคนได้ตระหนักก่อนที่จะเริ่มสร้างหนี้ว่า ถ้าหากเราจำเป็นต้องกู้หนี้ยืมสินใครจริงๆ เราจะต้องรู้อะไรบ้าง เพื่อไม่ให้หนี้สินที่เรากำลังจะเป็นนั้นส่งผลเสีย และได้รู้จักว่าหนี้ที่ดีและหนี้ที่เสียเป็นอย่างไร เพื่อที่จะได้เลือกให้ถูกต้องว่าเราจะเป็นหนี้แบบไหนดี ถ้าหากเข้าใจเรื่องเหล่านี้แล้ว บอกเลยว่าการเป็นหนี้ไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัวอีกต่อไป
เรื่องต้องรู้ก่อนที่จะเริ่มสร้างหนี้
เดี๋ยวนี้การเป็นหนี้เป็นเรื่องง่ายมาก โดยเฉพาะหนี้บัตรเครดิตที่สมัครง่ายอนุมัติไว เลยทำให้คนเป็นหนี้กันเยอะ ฉะนั้นเราอยากจะพาทุกคนมารู้จักเรื่องที่ต้องรู้ก่อนเป็นหนี้ เพื่อจะได้เป็นหนี้อย่างปลอดภัยและไม่ส่งผลเสีย
1.เป็นหนี้เท่าที่จำเป็น
- เวลาที่เราจะสร้างหนี้ทั้งทีต้องมีเรื่องที่จำเป็นจริงๆ เท่านั้นคือไม่สามารถหาเงินทางอื่นได้ทันแล้ว เลยจำเป็นต้องกู้ยืมจากแหล่งเงินกู้
- ก่อนที่จะกู้ต้องมีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนก่อนว่าเงินก้อนนี้เราจะเอาไปใช้จ่ายในเรื่องใด
- พยายามหลีกเลี่ยงการกู้เงินที่เอาไปใช้จ่ายในเรื่องที่ไม่จำเป็น เช่น กิน เที่ยว หรือซื้อของแบรนด์เนมต่างๆ
- กู้เงินตามจำนวนที่ต้องใช้เท่านั้น ไม่ควรกู้เงินเกินกว่าความจำเป็นจะได้ไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ยเยอะ
2. เป็นหนี้เท่าที่เราจ่ายไหว
- การเป็นหนี้ที่ดีนั้นต้องดูความเหมาะสมกับกำลังความสามารถของเราด้วย ว่าเราจ่ายไหวแค่ไหน
- ถ้าหากรู้ตัวว่าเราหาเงินได้น้อย ก็ไม่ควรกู้เงินเกินขีดความสามารถในการชำระเงิน ไม่เช่นนั้นอาจประสบปัญหาในภายหลัง เช่นเงินไม่พอใช้ ต้องไปกู้หนี้ยืมสินใครมาอีกไม่จบไม่สิ้น
- ก่อนจะเริ่มกู้ให้คำนวนตัวเลขให้แน่นอนลงไปก่อน ว่าเราจำเป็นต้องใช้เท่าไหร่และเรามีกำไรจ่ายแค่ไหน จะได้รู้ว่าเราจ่ายไหวหรือเปล่า เพื่อไม่กระทบกับค่าใช้จ่ายในอื่นๆ
- เมื่อเราเป็นหนี้ที่ไม่เกินกำลังตัวเอง ก็จะไม่ทำให้เกิดปัญหาหนี้เกินตัวและไม่ต้องมีหนี้สะสมในอนาคต
3. เลือกประเภทสินเชื่อให้ตรงกับวัตถุประสงค์
- เพราะปัจจุบันมีสินเชื่อหลายประเภทให้เลือก เช่น สินเชื่อส่วนบุคคล,สินเชื่อเพื่อการศึกษา, สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย,สินเชื่อเพื่อรถยนต์ และ สินเชื่อเพื่อธุรกิจ เราต้องเลือกสินเชื่อให้ตรงกับวัตถุประสงค์ของเราเท่านั้น
- สมมติว่าเราอยากจะซื้อรถยนต์สักคันก็ต้องเลือกสินเชื่อเพื่อรถยนต์เท่านั้น คือจะเอาเงินไปใช้จ่ายอะไรก็ให้เลือกกู้เงินกับสินเชื่อประเภทนั้นนั่นเอง
- เหตุผลที่เราต้องเลือกสินเชื่อให้ตรงกับวัตถุประสงค์ก็เพื่อให้ได้ดอกเบี้ยที่เหมาะสมที่สุด เพราะสินเชื่อแต่ละประเภทจะมีการคำนวณดอกเบี้ยที่แตกต่างกัน
- ก่อนที่จะเราจะกู้เงินมาใช้จ่ายอะไร ต้องหาข้อมูลก่อนว่าเราต้องกู้เงินกับสินเชื่ออะไรถึงจะตอบโจทย์กับวัตถุประสงค์ในการกู้
4. เลือกกู้กับสถาบันการเงินที่น่าเชื่อถือ
- เนื่องจากทุกวันนี้มีแหล่งเงินกู้หลายแห่ง ทั้งที่น่าเชื่อถือและไม่น่าเชื่อถือ ฉะนั้นเวลากู้เงินต้องเลือกกู้กับสถาบันการเงินน่าเชื่อถือเท่านั้น
- สถาบันการเงินที่น่าเชื่อถือมีข้อดีก็คือ จะอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่มีกฎหมายรองรับ เวลาเกิดปัญหาใดๆ ขึ้นก็สามารถดำเนินการทางกฎหมายได้
- พยายามหลีกเลี่ยงการกู้เงินกับแหล่งเงินกู้ที่ไม่น่าเชื่อถือและไม่ได้อยู่ภายใต้การดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย
- ก่อนที่จะกู้เงินต้องกูรายละเอียดของสถาบันการเงินที่เราจะกู้ให้ดีจะได้ไม่เกิดปัญหาในภายหลัง
5. ต้องมีวินัยในการชำระหนี้
- การเป็นหนี้เป็นเรื่องง่ายแต่การชำระหนี้ให้ตรงเวลาเป็นเรื่องยาก (สำหรับบางคน) ฉะนั้นถ้าเราจะคิดจะเป็นหนี้ก็ต้องมั่นใจว่าเราสามารถจ่ายหนี้ได้ตรงเวลา
- การขาดชำระหนี้นอกจากจะทำให้เสียเครดิตแล้วยังต้องเสียค่าปรับด้วย ทำให้ยิ่งต้องจ่ายเงินมากขึ้นไปอีก
- เมื่อไหร่ที่มีเงินก้อนเข้ามา เช่น ได้รับโบนัส ก็ให้รีบเอาเงินนั้นมาปิดหนี้ให้เร็วเท่าที่สุด เท่านี้เราก็เป็นคนที่มีเครดิตดีกับธนาคารแล้ว
6.ปรึกษาคนใกล้ตัวก่อนเป็นหนี้
- ลองขอความคิดเห็นจากคนใกล้ตัวก่อนโดยเฉพาะคนที่มีสามี-ภรรยา ว่าอีกฝ่ายคิดอย่างไรและจะได้วางแผนร่วมกัน
- การเป็นหนี้โดยไม่ปรึกษากันเลยมีโอกาสที่จะทำให้เกิดปัญหาด้านความสัมพันธ์ โดยเฉพาะการไม่ชำระเงินคืนให้ตรงเวลา
7.ปรึกษากับคนในครอบครัว
- นอกจากจะต้องปรึกษาแฟนแล้ว ครอบครัวก็ควรปรึกษาเช่นกันเพราะบางครั้งคนใดครอบครัวก็อาจจะให้ข้อคิดที่ดีได้ โดยเฉพาะคนที่มีประสบการณ์ในการกู้เงินมาก่อน
- บางครั้งทางครอบครัวก็อาจจะให้ยืมเงินก่อนได้ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะดอกเบี้ยต่ำหรือบางครั้งก็ไม่คิดดอกเบี้ยด้วย ฉะนั้นอย่าลืมปรึกษาเรื่องเหล่านี้กับครอบครัว
8.ประเมินสถานะการเงินของตัวเองก่อน
- ข้อนี้สำคัญมากเพราะการเข้าใจสถานะการเงินของตนเอง จะได้ประเมินได้ถูกว่าเราควรกู้หรือไม่กู้ จะกู้มากหรือน้อย
- การประเมินสถานะการเงินของตนเองก่อนเริ่มกู้ จะทำให้ไม่เกิดปัญหาหนี้สินในภายหลังและไม่ส่งผลกระทบกับค่าใช้จ่ายจำเป็นอื่นๆ ด้วย
9.ตรวจสอบระยะเวลาในการผ่อนชำระ
- ต้องระลึกเอาไว้เสมอว่ายิ่งเรามีระยะผ่อนนานเท่าไหร่และและยอดที่ชำระขั้นต่ำน้อยเท่าไหร่ ก็ยิ่งจะทำให้ดอกเบี้ยของเรามากขึ้นตามไปด้วย
- ระยะเวลาการผ่อนชำระที่สั่นและยอดเงินที่ต้องชำระที่สูง จะทำให้เราจ่ายดอกเบี้ยน้อยลงเท่านั้น
- ก่อนที่จะกู้เงินเราต้องเลือกระยะเวลาให้เหมาะสมกับสถานการณ์ทางการเงินในขณะนั้นของเราด้วย
10.เปรียบเทียบเงื่อนไขการกู้ยืมและอัตราดอกเบี้ย
- ให้ลองดูเงื่อนไขการกู้สินเชื่อจากสถาบันการเงินต่างๆ แล้วนำมาเปรียบเทียบกันให้ดีว่าสถาบันการเงินไหนที่มีเงื่อนไขที่เหมาะสมและดอกเบี้ยต่ำที่สุด
- ให้เปรียบเทียบเฉพาะสินเชื่อจากสถาบันการเงินที่น่าเชื่อเท่านั้น และควรหลีกเลี่ยงแหล่งเงินกู้จากนอกระบบเพราะแหล่งเงินกู้เหล่านี้ไม่มีกฎหมายคุ้มครอง
รู้หรือไม่? การเป็นหนี้ก็มีข้อดีเหมือนกัน
หลายคนเข้าใจว่าการเป็นหนี้เป็นเรื่องที่ไม่ดีและเราควรหลีกเลี่ยงการกู้เงินอย่างเด็ดขาด แต่ความเป็นจริงแล้วการเป็นหนี้มีข้อดีหลายอย่างเหมือนกันได้แก่
1.ช่วยสร้างเครดิตให้เรา
- เมื่อเรากู้เงินกับสถาบันการเงินที่น่าเชื่อถือและมีประวัติการชำระหนี้ตรงเวลาไม่เคยผิดนัดชำระ ก็จะทำให้เครดิตทางการเงินเราดีขึ้น
- เมื่อเรามีเครดิตที่ดี การกู้เงินครั้งต่อไปก็ง่ายขึ้นและอาจได้รับวงเงินในการกู้สูงขึ้นตามไปด้วย
- เราสามารถสร้างเครดิตให้ตัวเองง่ายๆ โดยเริ่มจากการผ่อนสินค้าเป็นงวดๆ เช่น การผ่อนโทรศัพท์มือถือ ผ่อนรถจักรยานยนต์ เป็นต้น อันนี้ก็จะเป็นการเปิดทางให้เรารู้ว่าเราสามารถจัดการเรื่องหนี้สินได้ดีแค่ไหน
2.เพิ่มโอกาสในชีวิต
- คนที่มีแนวคิดในเรื่องธุรกิจแต่ไม่มีเงินทุนก็ต้องอาศัยเงินกู้จากสถาบันการเงินเข้ามาช่วย ซึ่งเป็นการได้เปิดโอกาสสร้างความมั่งคั่งในชีวิต
- คนจนหรือมีรายได้น้อยก็สามารถที่จะสร้างความมั่งคั่งได้ด้วยการกู้เงินมาลงทุนในสิ่งที่สร้างมูลค่าในอนาคต
3.ช่วยให้มีแรงฮึดสู้
- เมื่อเรามีหนี้สินอยู่ข้างหลัง เราก็จะยิ่งจะมุ่งมั่นในการพัฒนาและเอาจริงเอาจังในชีวิตมากขึ้น ทำให้มีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จในชีวิตมากขึ้นด้วย
หนี้ดี – หนี้เสีย คืออะไร?
ก่อนที่เราจะเริ่มสร้างหนี้มีสิ่งหนึ่งที่จะต้องเข้าใจก่อนก็คือ ประเภทของหนี้สินก็คือ หนี้ดีและหนี้เสีย ว่าแตกต่างกันอย่างไร และเราควรเลือกเป็นหนี้ประเภทไหนดี
หนี้ดี คืออะไร?
หนี้ดี คือ หนี้ที่เป็นแล้วสามารถที่จะสร้างมูลค่าสร้างรายได้ให้เราเพิ่มขึ้นในอนาคต เช่น การนำเงินไปลงทุนทำธุรกิจแล้วได้ผลกำไรในอนาคต
ตัวอย่างของหนี้ดี
- หนี้ที่ทำให้เกิดรายได้มากขึ้น เช่น เงินที่กู้ยืมมาเพื่อประกอบอาชีพ เงินที่กู้มาเพื่อลงทุนในทรัพย์สินต่างๆ และเงินที่กู้มาเพื่อทำธุรกิจ
- หนี้ที่ทำให้เกิดความรู้ เช่น การกู้เงินเพื่อการใช้สำหรับใช้เพื่อการศึกษา ซึ่งเราสามารถนำความรู้นั้นมาต่อยอดและสร้างรายได้สร้างอาชีพในอนาคตได้
- หนี้ที่อยู่ในระบบ เช่น เมื่อเรากู้เงินกับสถาบันการเงินที่อยู่ภายใต้เครดิตบูโร หลังจากที่เราชำระหนี้ครบทุกงวดและมีประวัติการชำระเงินที่ดี เราก็สามารถยื่นกู้เงินในอนาคตอีกได้
หนี้เสีย คืออะไร?
หนี้เสีย คือ หนี้ที่เป็นแล้ว ไม่ก่อให้เกิดมูลค่าเพิ่มขึ้นหรือไม่มีรายได้ในอนาคต
ตัวอย่างของหนี้เสีย
- หนี้ที่ไม่ทำให้เกิดรายได้ เช่น การกู้เงินเพื่อซื้อของฟุ่มเฟือย การกู้เงินเพื่อไปเที่ยวต่างประเทศ
- หนี้ที่ไม่สามารถชำระหนี้ได้ครบตามกำหนด ซึ่งอาจส่งผลทำให้มีฟ้องร้องดำเนินคดี โดนยึดทรัพย์ และทำให้เสียเครดิต ทำให้การกู้เงินครั้งต่อไปไม่ผ่านเพราะว่ามีเครดิตทางการเงินไม่ดี
- หนี้ที่อยู่นอกระบบ เช่น การกู้เงินกับแหล่งเงินกู้ที่อยู่นอกเครดิตบูโร เพราะแหล่งเงินกู้เหล่านี้ไม่มีประวัติการชำระหนี้ ที่สำคัญไม่มีกฎหมายคุ้มครองด้วย เวลาที่เกิดปัญหาใดๆ ขึ้นก็เรียกร้องไม่ได้
สรุปท้ายบท
ตอนนี้เราก็ได้เข้าใจตรงกันแล้วว่าการเป็นหนี้ไม่ใช่เรื่องที่ผิดหรือว่าเป็นสิ่งเลวร้ายใดๆ ถ้าหากเราเข้าใจเรื่องหนี้และรู้จักประเภทของหนี้ให้ดี การกู้เงินก็ไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัวอีกต่อไปแล้วที่สำคัญก่อนที่จะสร้างหนี้ทุกครั้งอย่าลืมนึกถึง 10 ข้อคิดก่อนจะเป็นหนี้เสมอ เพื่อจะได้ไม่เกิดข้อผิดพลาดในการกู้เงินและสร้างปัญหาติดพันตามมาในภายหลัง และที่สำคัญที่สุดเราต้องมีวินัยในตัวเองในการผ่อนชำระหนี้ตามเงื่อนไขให้ได้
แหล่งอ้างอิง
bot.or.th: รู้ก่อนแบบนี้ เป็นหนี้ได้สบายใจ https://www.bot.or.th/th/research-and-publications/articles-and-publications/bot-magazine/Phrasiam-67-2/256702-FinWis-HappyDebtor.html
krungthai.com: สิ่งควรรู้ก่อนกู้เงินเป็นหนี้ https://krungthai.com/th/financial-partner/learn-financial/1006
apthai.com: กลัว Blacklist ต้องรู้ หนี้เสียคืออะไร? ส่งผลต่อการกู้เงินไหม? https://www.apthai.com/th/blog/know-how/knowhow-differences-of-good-debt-bad-debt